เมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินมาร่วมการประชุมของชุนนุมภาษาไทย ที่คณะอักษรศาสตร์ เป็นการส่วนพระองค์ ทรงเป็นประธานของที่ประชุม ทรงร่วมอภิปราย “ปัญหาการใช้คำไทย” และโปรดเกล้าฯ ให้ผู้ทรงคุณวุฒิอื่น ๆ เข้าร่วมชี้แจงปัญหาการใช้คำไทยด้วย พระราชวินิจฉัยที่เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแสดงให้เห็นพระปรีชาสามารถ ความสนพระราชหฤทัยและความห่วงใยที่ทรงมีต่อการใช้ภาษาไทย การเสด็จพระราชดำเนินในครั้งนั้นนับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่เปรียบมิได้แก่คณะอักษรศาสตร์ เพราะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงร่วมอภิปรายในการประชุมทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาในเมืองไทย ดังนั้นจึงเป็นที่มาของวันภาษาไทยแห่งชาติ ๒๙ กรกฎาคม
วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันอาทิตย์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ทัชมาฮัล
ถ้าถามว่า “ความรักคืออะไร“…. อย่าคิดหาคำตอบให้เสียเวลา…เพราะว่าเราจะไม่ได้ความหมายที่แท้จริงเลย คำๆ นี่ไม่มีแม้กระทั่งคำจำกัดความของตัวมันเอง เรารู้แต่เพียงว่า “ความรัก” นั้น สามารถบันดาลให้เกิดขึ้นได้ทุกสิ่ง
ทัชมาฮัล คือตัวอย่างของตำนานแห่ง “ ความรัก” ที่ปราศจากนิยามคำนี้ ผู้ที่สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่คือ กษัตริย์ชาห์ญะฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล ที่ทรงโปรดให้สร้าง ตาซมะฮัล หรือ ทัชมาฮัลขึ้นเป็นอนุสรณ์แทนความรักที่พระองค์มีต่อมเหสีคือ พระนางมุมตาซ มะฮัล จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่งดงามที่สุดในโลก
กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ญะฮางงีร์ ทรงประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1592 เป็นที่ร่ำลือตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงเคร่งขรึม ในพระทัยเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ความเป็นคนอมทุกข์ของพระราชโอรสสร้างความหนักพระทัยให้กับพระราชบิดาเป็นอย่างมาก กษัตริย์ญะฮางีร์ ทรงแนะ
นำให้พระราชโอรสดื่มน้ำจัณฑ์และหาความสำราญพระทัยด้านต่างๆ มาสู่พระราชโอรส แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชาห์ ญะฮาน ยังทรงเคร่งขรึมไม่เบิกบานพระทัยเช่นเดิม
จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายได้เสด็จประพาสตลาดและได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี นามว่า อรชุนด์ บาโน เบคุม เป็นบุตรสาวของ อะซีฟ ข่าน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1592 และมีเชื้อสายเปอร์เซีย เพียงได้เห็นดวงหน้าของนางครั้งแรกเจ้าชายก็เกิดรักแรกพบขึ้นที่ตลาดนั่นเอง 3 ปีให้หลัง พิธิอภิเษกสมรสของเจ้าชายก็ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1612 หลังจากพิธีอภิเษก อรชุนด์ บาโน เบคุม ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า มุมตาซ มะฮัล ซึ่งแปลว่า อัญมณีแห่งปราสาท หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าชายก็ทรงเปลี่ยนไป เพราะเบิกบานพระ
ทัยยิ่งนัก อีกทั้งสองพระองค์ก็เป็นคู่รักที่ไม่เคยแยกจากกันเลย ในปี ค.ศ. 1628 เจ้าชายเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ ทรงพระนามว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โดยมีพระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีคู่พระทัย พระนางทรงเป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษา และ มีส่วนในการช่วยเหลือพระสวามีในการปกครองบ้านเมือง อีกทั้งยังทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั่วหล้า
พระนางมุมตาซ มะฮัล ทรงให้กำเนิดพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 14 พระองค์ หลังจากทรงให้กำเนิดพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในช่วงปี ค.ศ. 1631 พระนางได้เสด็จร่วมกรีธาทัพกับพระสวามี ณ เมืองเดคข่าน แต่ระหว่างเสด็จกลับพระนครพระนางก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ในที่สุดขบวนเคลื่อนพระศพสู่พระนครนั้น ถูกจัดอย่างเอิกเกริกมโหฬาร ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนมีการโปรยทานแก่คนยากจน เมื่อขบวนเคลื่อนเข้าใกล้กรุงอาครา ผู้ที่อาลัยรักพระนางต่างมาสมทบมากขึ้นจนเป็นขบวนแห่พระศพที่ยิ่งใหญ่มาก
กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้นำอาหารมาเลี้ยงแก่ประชาชนทั้งหลายอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศแก่พระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระมเหสีสุดที่รักสร้างความโทมนัสตรอมพระทัยให้กับกษัตริย์ชาห์ ญะฮานเป็นอย่างมาก พระองค์ไม่ทรงเสวยและไม่ทรงพระบรรทม ทรงแต่ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องนุ่มห่มสีขาวเป็นการไว้ทุกข์ และทรงเสด็จเยี่ยมหลุมฝังศพของพระนางทุกวันศุกร์ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่ง จึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักขึ้นมาอย่างวิจิตรอลังการ และให้ชื่อเรียกว่า ตาซ มะฮัล สร้างอยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา
ในการก่อสร้างนั้น กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้ระดมช่าง ศิลปิน และสถาปนิกที่ได้ชื่อว่าฝีมือดีเยี่ยมที่สุดจากหลายๆ ที่ ประมาณ 20,000 คน ใช้เวลาการในก่อสร้าง 22 ปี สิ้นค้าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปประมาณ 45 ล้านรูปี พระอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างด้วยศิลาขาวทั้งหมดมีโดมทรงกลมเด่นอยู่ตรงกลาง สูงถึง 72 เมตร บริเวณโดยรอบมีผนังศิลาแลงล้อมรอบ ประตูทางเข้าวางอยู่บนฐานศิลาแลง บริเวณทางเข้ามีสระน้ำหินอ่อนสีขาวรอบทางเดินเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์
ตำแหน่งที่เป็นที่วางพระศพของพระนางมุมตาซ ทำเป็นแท่นรูปบัวตูม ส่วนหีบพระศพเป็นหินอ่อนสีขาวแกะสลักอย่างงดงาม หลังจากที่เป็นที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จแล้ว กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ได้เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้เสมอๆ จนกระทั่งในค.ศ. 1658 ก็ทรงล้มป่วย พระราชโอรสองค์ที่ 3 คือ ออรังเซป ก็ตั้งตนขึ้นครองราชบัลลังก์แทน และจับกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน พระราชบิดา กักขังไว้จนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1666
ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ระหว่างที่ถูกกักขังอยู่กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน เฝ้าแต่นั่งจ้องมองดูกระจกชิ้นเล็กๆ ที่ส่องสะท้อนออกไปเห็นทัชมาฮัล พระองค์สวรรคตพร้อมด้วยกระจกที่กำแน่นอยู่ในพระหัตถ์ และ พระบรมศพของพระองค์ก็ได้ถูกนำไปฝังในทัชมาฮัล เคียงข้างกับพระมเหสีสุดที่รัก ตามพระประสงค์ที่ทรงต้องการจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วนิจนิรันดร์ ตำนานอันเลื่องลือของความรักที่ปรากฏไปทั่วโลกเรื่องนี้
ยังมีเรื่องเล่าในอีกแง่มุมหนึ่งเกิดขึ้นมาที่ว่ากันว่ากษัตริย์ชาห์ ญะฮาน สร้างทัชมาฮัลขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดถึงหลักมนุษยธรรม และทัชมาฮัลก็กลายเป็นที่
เกลียดชังของทุกคนเพราะในการสร้างทัชมาฮัล กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ระดมช่างฝีมือดีมาเป็นจำนวนมากและมีกฎว่าต้องสร้างให้เสร็จตามกำหนดเวลา ถ้าสร้างไม่เสร็จก็จะถูก
ลงโทษ และยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมื่อสร้างทัชมาฮัลเสร็จแล้ว ช่างทุกคนก็ถูกฆ่าตาย จนหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสร้างสถานที่ที่งดงามเช่นนี้เลียนแบบไว้ที่ไหนอีก
บ้างก็ว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน อาจะไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างทัชมาฮัลให้ยิ่งใหญ่เพื่อความรัก แต่มีแผนการที่จะสร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เพื่อสนองความต้องการ - ของตัวเอง และในการสร้างทัชมาฮัลนี้ ทำให้ประเทศอินเดียต้องสูญเสียเงินที่จะมาสร้างความเจริญให้กับประเทศ ไปถึง 250 ปี อย่างไรก็ตาม โลกก็ได้ให้รางวัลสำหรับ - ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ด้วยการจัดให้ทัชมาฮัล เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตราบมาจนถึงปัจจุบันนี้
ทัชมาฮัล คือตัวอย่างของตำนานแห่ง “ ความรัก” ที่ปราศจากนิยามคำนี้ ผู้ที่สร้างตำนานความรักอันยิ่งใหญ่คือ กษัตริย์ชาห์ญะฮาน กษัตริย์องค์ที่ 5 ในราชวงศ์โมเลกุล ที่ทรงโปรดให้สร้าง ตาซมะฮัล หรือ ทัชมาฮัลขึ้นเป็นอนุสรณ์แทนความรักที่พระองค์มีต่อมเหสีคือ พระนางมุมตาซ มะฮัล จนสถานที่แห่งนี้กลายเป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักที่งดงามที่สุดในโลก
กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ทรงเป็นพระราชโอรสของกษัตริย์ญะฮางงีร์ ทรงประสูติเมื่อปี ค.ศ. 1592 เป็นที่ร่ำลือตั้งแต่ครั้งทรงพระเยาว์ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้าชายที่ทรงเคร่งขรึม ในพระทัยเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ความเป็นคนอมทุกข์ของพระราชโอรสสร้างความหนักพระทัยให้กับพระราชบิดาเป็นอย่างมาก กษัตริย์ญะฮางีร์ ทรงแนะ
นำให้พระราชโอรสดื่มน้ำจัณฑ์และหาความสำราญพระทัยด้านต่างๆ มาสู่พระราชโอรส แต่ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ชาห์ ญะฮาน ยังทรงเคร่งขรึมไม่เบิกบานพระทัยเช่นเดิม
จนกระทั่งวันหนึ่ง เจ้าชายได้เสด็จประพาสตลาดและได้พบกับสาวน้อยวัย 14 ปี นามว่า อรชุนด์ บาโน เบคุม เป็นบุตรสาวของ อะซีฟ ข่าน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1592 และมีเชื้อสายเปอร์เซีย เพียงได้เห็นดวงหน้าของนางครั้งแรกเจ้าชายก็เกิดรักแรกพบขึ้นที่ตลาดนั่นเอง 3 ปีให้หลัง พิธิอภิเษกสมรสของเจ้าชายก็ถูกจัดขึ้นในปี ค.ศ. 1612 หลังจากพิธีอภิเษก อรชุนด์ บาโน เบคุม ได้รับพระราชทานนามใหม่ว่า มุมตาซ มะฮัล ซึ่งแปลว่า อัญมณีแห่งปราสาท หลังจากนั้นเป็นต้นมาเจ้าชายก็ทรงเปลี่ยนไป เพราะเบิกบานพระ
ทัยยิ่งนัก อีกทั้งสองพระองค์ก็เป็นคู่รักที่ไม่เคยแยกจากกันเลย ในปี ค.ศ. 1628 เจ้าชายเสด็จขึ้นครองราชบังลังก์ ทรงพระนามว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โดยมีพระนางมุมตาซ มะฮัล เป็นพระมเหสีคู่พระทัย พระนางทรงเป็นทั้งคู่คิดและที่ปรึกษา และ มีส่วนในการช่วยเหลือพระสวามีในการปกครองบ้านเมือง อีกทั้งยังทรงเป็นที่รักใคร่ของพสกนิกรทั่วหล้า
พระนางมุมตาซ มะฮัล ทรงให้กำเนิดพระราชโอรสและพระราชธิดารวม 14 พระองค์ หลังจากทรงให้กำเนิดพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในช่วงปี ค.ศ. 1631 พระนางได้เสด็จร่วมกรีธาทัพกับพระสวามี ณ เมืองเดคข่าน แต่ระหว่างเสด็จกลับพระนครพระนางก็ทรงพระประชวรและสิ้นพระชนม์ในที่สุดขบวนเคลื่อนพระศพสู่พระนครนั้น ถูกจัดอย่างเอิกเกริกมโหฬาร ตลอดเส้นทางที่เคลื่อนขบวนมีการโปรยทานแก่คนยากจน เมื่อขบวนเคลื่อนเข้าใกล้กรุงอาครา ผู้ที่อาลัยรักพระนางต่างมาสมทบมากขึ้นจนเป็นขบวนแห่พระศพที่ยิ่งใหญ่มาก
กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้นำอาหารมาเลี้ยงแก่ประชาชนทั้งหลายอย่างเต็มที่ เพื่อเป็นการทำบุญอุทิศแก่พระมเหสีอันเป็นที่รักยิ่ง การจากไปอย่างไม่มีวันกลับของพระมเหสีสุดที่รักสร้างความโทมนัสตรอมพระทัยให้กับกษัตริย์ชาห์ ญะฮานเป็นอย่างมาก พระองค์ไม่ทรงเสวยและไม่ทรงพระบรรทม ทรงแต่ฉลองพระองค์ด้วยเครื่องนุ่มห่มสีขาวเป็นการไว้ทุกข์ และทรงเสด็จเยี่ยมหลุมฝังศพของพระนางทุกวันศุกร์ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่ง จึงโปรดให้สร้างอนุสาวรีย์แห่งความรักขึ้นมาอย่างวิจิตรอลังการ และให้ชื่อเรียกว่า ตาซ มะฮัล สร้างอยู่บนพื้นที่ 42 เอเคอร์ ริมฝั่งแม่น้ำยมุนา
ในการก่อสร้างนั้น กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน โปรดให้ระดมช่าง ศิลปิน และสถาปนิกที่ได้ชื่อว่าฝีมือดีเยี่ยมที่สุดจากหลายๆ ที่ ประมาณ 20,000 คน ใช้เวลาการในก่อสร้าง 22 ปี สิ้นค้าใช้จ่ายในการก่อสร้างไปประมาณ 45 ล้านรูปี พระอนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างด้วยศิลาขาวทั้งหมดมีโดมทรงกลมเด่นอยู่ตรงกลาง สูงถึง 72 เมตร บริเวณโดยรอบมีผนังศิลาแลงล้อมรอบ ประตูทางเข้าวางอยู่บนฐานศิลาแลง บริเวณทางเข้ามีสระน้ำหินอ่อนสีขาวรอบทางเดินเป็นสวนดอกไม้นานาพันธุ์
ตำแหน่งที่เป็นที่วางพระศพของพระนางมุมตาซ ทำเป็นแท่นรูปบัวตูม ส่วนหีบพระศพเป็นหินอ่อนสีขาวแกะสลักอย่างงดงาม หลังจากที่เป็นที่สร้างทัชมาฮาลเสร็จแล้ว กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ได้เสด็จมายังสถานที่แห่งนี้เสมอๆ จนกระทั่งในค.ศ. 1658 ก็ทรงล้มป่วย พระราชโอรสองค์ที่ 3 คือ ออรังเซป ก็ตั้งตนขึ้นครองราชบัลลังก์แทน และจับกษัตริย์ชาห์ ญะฮาน พระราชบิดา กักขังไว้จนสิ้นพระชนม์ เมื่อวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 1666
ก่อนถึงวาระสุดท้ายของชีวิต ระหว่างที่ถูกกักขังอยู่กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน เฝ้าแต่นั่งจ้องมองดูกระจกชิ้นเล็กๆ ที่ส่องสะท้อนออกไปเห็นทัชมาฮัล พระองค์สวรรคตพร้อมด้วยกระจกที่กำแน่นอยู่ในพระหัตถ์ และ พระบรมศพของพระองค์ก็ได้ถูกนำไปฝังในทัชมาฮัล เคียงข้างกับพระมเหสีสุดที่รัก ตามพระประสงค์ที่ทรงต้องการจะอยู่เคียงคู่กันตราบชั่วนิจนิรันดร์ ตำนานอันเลื่องลือของความรักที่ปรากฏไปทั่วโลกเรื่องนี้
ยังมีเรื่องเล่าในอีกแง่มุมหนึ่งเกิดขึ้นมาที่ว่ากันว่ากษัตริย์ชาห์ ญะฮาน สร้างทัชมาฮัลขึ้นมาด้วยความเห็นแก่ตัว โดยไม่คิดถึงหลักมนุษยธรรม และทัชมาฮัลก็กลายเป็นที่
เกลียดชังของทุกคนเพราะในการสร้างทัชมาฮัล กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน ระดมช่างฝีมือดีมาเป็นจำนวนมากและมีกฎว่าต้องสร้างให้เสร็จตามกำหนดเวลา ถ้าสร้างไม่เสร็จก็จะถูก
ลงโทษ และยังมีเรื่องเล่าอีกว่า เมื่อสร้างทัชมาฮัลเสร็จแล้ว ช่างทุกคนก็ถูกฆ่าตาย จนหมดเพื่อป้องกันไม่ให้ไปสร้างสถานที่ที่งดงามเช่นนี้เลียนแบบไว้ที่ไหนอีก
บ้างก็ว่า กษัตริย์ชาห์ ญะฮาน อาจะไม่ได้ตั้งใจที่จะสร้างทัชมาฮัลให้ยิ่งใหญ่เพื่อความรัก แต่มีแผนการที่จะสร้างปราสาทที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก เพื่อสนองความต้องการ - ของตัวเอง และในการสร้างทัชมาฮัลนี้ ทำให้ประเทศอินเดียต้องสูญเสียเงินที่จะมาสร้างความเจริญให้กับประเทศ ไปถึง 250 ปี อย่างไรก็ตาม โลกก็ได้ให้รางวัลสำหรับ - ความยิ่งใหญ่ครั้งนี้ ด้วยการจัดให้ทัชมาฮัล เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ตราบมาจนถึงปัจจุบันนี้
วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2552
ทอดไข่ดาวให้สวย
นำกระทะตั้งไฟปานกลางใส่น้ำมันพืชรอจนน้ำมันร้อนได้ที่ตอกไข่ใส่ถ้วยใส่ลงในกระทะ ตักไข่ขาวขึ้นมาปิดไข่แดง ทอดพอเหลืองก็จะได้ไข่ทอดที่ดูน่ารับประทาน
วันพุธที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2552
การขจัดคราบมันในอ่างล้างจาน
หลังการล้างจาน คราบน้ำมันมักติดอยู่บริเวณก้นอ่างและรอบๆอ่าง หากเช็ดหรือล้างธรรมดาจะออกยาก
ให้ใช้น้ำส้มสายชูเทลงในอ่างประมาณ 1/4 ถ้วย เช็ดให้ทั่วบริเวณที่คราบไขมันเกาะแล้วจึง
ล้างน้ำให้สะอาด ใช้น้ำยาล้างจานล้างซ้ำอีกครั้ง คราบไขมันจะหมดไป
ให้ใช้น้ำส้มสายชูเทลงในอ่างประมาณ 1/4 ถ้วย เช็ดให้ทั่วบริเวณที่คราบไขมันเกาะแล้วจึง
ล้างน้ำให้สะอาด ใช้น้ำยาล้างจานล้างซ้ำอีกครั้ง คราบไขมันจะหมดไป
วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2552
แบบทดสอบ : เขาชอบเราไหม?

กรุณาตอบถูกในข้อที่ใช่ และตอบผิดในข้อที่ไม่ใช่นั่นแหละ
1.หลังเลิกเรียนทีไร มักเห็นเขามายืนปั้มจิ้มปั้นเจ๋อส่งยิ้มให้ทุกที
2.แถมยังขึ้นรถเมล์คันเดียวกันกับเธอด้วย ทั้งที่บ้านอยู่คนละทาง
3.เขาเคยมาขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนกับเธอ
4.เขาเคยเอาเรื่องครู เรื่องเพื่อน หรือเรื่องทั่วๆไปมาเล่าให้เธอฟังด้วยละ
5.เขาเคยชมเครื่องประดับของเธอว่าน่ารัก เช่น นาฬิกาสวยจัง กิ๊บติดผมสีหวานดี
6.เขามักเรียกชื่อเล่นของเธอ เผลอๆยังแอบตั้งฉายาน่ารักๆให้ด้วย
7.คุยอยู่กับเพื่อน แต่สายตาของเขามังมองมาทางเธอ
8.เขาเคยยืมสมุดหรือหนังสือของเธอ ตอนคืนให้ก็มักมีโน๊ตเล็กๆหรือแอบมีข้อความหวานๆแนบมาด้วย
9.เขาเคยเอารูปตอนไปถ่าย photo sticker มาอวดเธอด้วยละ
10.ดูเสร็จแล้วยังชวนเธอแบบทีเล่นทีจริงว่า "วันหลังเราไปถ่ายกันมั้ย"
11.ทุกครั้งที่คุยกับเธอ เขามักมีท่าทีเก้กังๆลูบแขนจับผม หรือไม่ก็ยิ้มอย่างเอียงอาย
12.เขาเคยถามเธอว่ามีแฟนหรือยัง
13.และเขาก็เคยขอเบอร์โทร เบอร์เพจเจอร์ของเธอด้วย
ถ้าตอบถูกได้ 9 ข้อขึ้นไป อ่านคำตอบที่ A
ถ้าตอบถูกได้ 6-8 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ B
ถ้าตอบถูกได้ 3-5 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ C
ถ้าตอบถูกได้ 0-2 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ D
A -- เตรียมตัวเด็ดดอกรักได้เลยเธอ ก็ ความรู้สึกของเขาในตอนนี้ฟันธงเลยว่าชอบเธอชัวร์ ชอบจริงๆไม่มีลังเล อย่าลำพองละกัน แล้วก็ควรเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาคุยกับเธอแบบ 2 ต่อ 2 มั่ง ถ้าอยากได้ยินคำสารภาพจากใจจริงของเขา
B -- "ความประทับใจเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ประโยค นี้ไม่มีกวีเอกท่านไหนกล่าวไว้ แต่เป็นความรู้สึกของเขาต่างหาก ที่อยากคบเธอในฐานะเพื่อนสนิท เป็นคนคุ้นเคยกันไปก่อน เพียงเธอทำตัวให้สนุกสนาน ยิ้มแย้มแจ่มใส แค่นี้ก็มัดใจเขาได้หลายกระบุงแล้ว
C-- ไม่ถึงกับกรี๊ดเธอหรอก เขา เพียงสนใจอยากเป็นคนรู้จัก อยากลองคบ อยากเป็นคนที่คุ้นเคยเท่านั้น ขนาดนี้แล้วแสดงว่าเขาอยากมีเธอเป็นคนรักคนแรกนะสิ ว้าว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอแล้วละ ว่าจะจัดการเติมเสน่ห์ตัวเองให้มัดใจเขาได้อย่างไร
D-- จะชอบก็ไม่ใช่ ชังก็ไม่เชิง แต่ ที่แน่ๆเขายังไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเธอนะสิ ถ้าเธอมีใจปิ๊งเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ต้องพยายามหาทางสร้างความประทับใจให้เขาเห็นหน่อย อย่ามัวแต่เก็บความรู้สึกเลยพยายามนะจ๊ะ
1.หลังเลิกเรียนทีไร มักเห็นเขามายืนปั้มจิ้มปั้นเจ๋อส่งยิ้มให้ทุกที
2.แถมยังขึ้นรถเมล์คันเดียวกันกับเธอด้วย ทั้งที่บ้านอยู่คนละทาง
3.เขาเคยมาขอคำปรึกษาเรื่องการเรียนกับเธอ
4.เขาเคยเอาเรื่องครู เรื่องเพื่อน หรือเรื่องทั่วๆไปมาเล่าให้เธอฟังด้วยละ
5.เขาเคยชมเครื่องประดับของเธอว่าน่ารัก เช่น นาฬิกาสวยจัง กิ๊บติดผมสีหวานดี
6.เขามักเรียกชื่อเล่นของเธอ เผลอๆยังแอบตั้งฉายาน่ารักๆให้ด้วย
7.คุยอยู่กับเพื่อน แต่สายตาของเขามังมองมาทางเธอ
8.เขาเคยยืมสมุดหรือหนังสือของเธอ ตอนคืนให้ก็มักมีโน๊ตเล็กๆหรือแอบมีข้อความหวานๆแนบมาด้วย
9.เขาเคยเอารูปตอนไปถ่าย photo sticker มาอวดเธอด้วยละ
10.ดูเสร็จแล้วยังชวนเธอแบบทีเล่นทีจริงว่า "วันหลังเราไปถ่ายกันมั้ย"
11.ทุกครั้งที่คุยกับเธอ เขามักมีท่าทีเก้กังๆลูบแขนจับผม หรือไม่ก็ยิ้มอย่างเอียงอาย
12.เขาเคยถามเธอว่ามีแฟนหรือยัง
13.และเขาก็เคยขอเบอร์โทร เบอร์เพจเจอร์ของเธอด้วย
ถ้าตอบถูกได้ 9 ข้อขึ้นไป อ่านคำตอบที่ A
ถ้าตอบถูกได้ 6-8 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ B
ถ้าตอบถูกได้ 3-5 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ C
ถ้าตอบถูกได้ 0-2 ข้อ อ่านคำตอบได้ที่ D
A -- เตรียมตัวเด็ดดอกรักได้เลยเธอ ก็ ความรู้สึกของเขาในตอนนี้ฟันธงเลยว่าชอบเธอชัวร์ ชอบจริงๆไม่มีลังเล อย่าลำพองละกัน แล้วก็ควรเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาคุยกับเธอแบบ 2 ต่อ 2 มั่ง ถ้าอยากได้ยินคำสารภาพจากใจจริงของเขา
B -- "ความประทับใจเป็นหน้าต่างของหัวใจ" ประโยค นี้ไม่มีกวีเอกท่านไหนกล่าวไว้ แต่เป็นความรู้สึกของเขาต่างหาก ที่อยากคบเธอในฐานะเพื่อนสนิท เป็นคนคุ้นเคยกันไปก่อน เพียงเธอทำตัวให้สนุกสนาน ยิ้มแย้มแจ่มใส แค่นี้ก็มัดใจเขาได้หลายกระบุงแล้ว
C-- ไม่ถึงกับกรี๊ดเธอหรอก เขา เพียงสนใจอยากเป็นคนรู้จัก อยากลองคบ อยากเป็นคนที่คุ้นเคยเท่านั้น ขนาดนี้แล้วแสดงว่าเขาอยากมีเธอเป็นคนรักคนแรกนะสิ ว้าว คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเธอแล้วละ ว่าจะจัดการเติมเสน่ห์ตัวเองให้มัดใจเขาได้อย่างไร
D-- จะชอบก็ไม่ใช่ ชังก็ไม่เชิง แต่ ที่แน่ๆเขายังไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับเธอนะสิ ถ้าเธอมีใจปิ๊งเขาเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ก็ต้องพยายามหาทางสร้างความประทับใจให้เขาเห็นหน่อย อย่ามัวแต่เก็บความรู้สึกเลยพยายามนะจ๊ะ
วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
ภาษาไทย มีความหมายจ้า
เสียบอล-ผู้เล่นโดนแย่งลูกไปได้ ถ้าเป็นคนดู หมายถึงแพ้พนัน
บอลแพ้-ภารดรไม่ชนะ
เกย์-เพศที่ควบคุมการเพิ่มประชากรโลกได้ดีที่สุด
วันแดงเดือด-วันที่แมนยูฯ เจอลิเวอร์พูล ถ้าเป็นผู้หญิงหมายความว่าเมนส์มา
หงส์-ที่อังกฤษเป็นทีมฟุตบอล ที่เมืองไทยกลับเป็นยี่ห้อเหล้า
หัวช้าง-บางครั้งก็เล็กกว่าหัวคน ถ้าเป็นชื่อของสิว
วัว-สัตว์ที่มีความจำสั้นที่สุด ตีนของตัวเองยังจำไม่ได้
บีบสิว-เปรียบเหมือนพ่อแม่ทำร้ายลูก แล้วตัวเองเจ็บยิ่งกว่า
ทอง-ของมีค่าที่คนอยากได้ แต่จะไร้ค่าเมื่อเป็นวัยของผู้หญิง
ผายปอด-ต่างจากผายลมคือ ผายปอดให้ผู้อื่นช่วย ส่วนผายลมทำเองล้วนๆ
รักแร้-สิ่งที่เด็กสมัยใหม่เห็นเป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา
สิทธิสตรี-เครื่องมือทลายกำแพงทุกอย่าง แม้กระทั่งคำสอนในศาสนา
ลิขสิทธิ์-สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า ‘ตูนี่แหละ เป็นเจ้าของ’
เหินฟ้า-การทะยานไปในอากาศ สำหรับแบคแฮมคือการยิงลูกโทษ
ชัยชนะ-เกิดขึ้นได้จากการพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้าม
หนู-สัตว์ชนิดหนึ่งที่ผู้หญิงเกลียด แต่เมื่อเอามาเรียกตัวเองกลับชอบ
ฟุตบอล-คล้ายกับเมีย คือหลังจากได้ครอบครองแล้วก็ต้องเขี่ยมันออกไป
ชิป-วัตถุอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ถ้าหาไม่เจอเรียกว่า ชิปหาย
ฉลาม-สัตว์ที่ไม่อยากเกิดมามีหู
ปอด-อวัยวะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุหรี่
งานศพ-งานที่เจ้าตัวไม่เคยออกมาต้อนรับแขกเลย
บอลแพ้-ภารดรไม่ชนะ
เกย์-เพศที่ควบคุมการเพิ่มประชากรโลกได้ดีที่สุด
วันแดงเดือด-วันที่แมนยูฯ เจอลิเวอร์พูล ถ้าเป็นผู้หญิงหมายความว่าเมนส์มา
หงส์-ที่อังกฤษเป็นทีมฟุตบอล ที่เมืองไทยกลับเป็นยี่ห้อเหล้า
หัวช้าง-บางครั้งก็เล็กกว่าหัวคน ถ้าเป็นชื่อของสิว
วัว-สัตว์ที่มีความจำสั้นที่สุด ตีนของตัวเองยังจำไม่ได้
บีบสิว-เปรียบเหมือนพ่อแม่ทำร้ายลูก แล้วตัวเองเจ็บยิ่งกว่า
ทอง-ของมีค่าที่คนอยากได้ แต่จะไร้ค่าเมื่อเป็นวัยของผู้หญิง
ผายปอด-ต่างจากผายลมคือ ผายปอดให้ผู้อื่นช่วย ส่วนผายลมทำเองล้วนๆ
รักแร้-สิ่งที่เด็กสมัยใหม่เห็นเป็นเครื่องเชิดหน้าชูตา
สิทธิสตรี-เครื่องมือทลายกำแพงทุกอย่าง แม้กระทั่งคำสอนในศาสนา
ลิขสิทธิ์-สิ่งที่บ่งบอกให้รู้ว่า ‘ตูนี่แหละ เป็นเจ้าของ’
เหินฟ้า-การทะยานไปในอากาศ สำหรับแบคแฮมคือการยิงลูกโทษ
ชัยชนะ-เกิดขึ้นได้จากการพ่ายแพ้ของฝ่ายตรงข้าม
หนู-สัตว์ชนิดหนึ่งที่ผู้หญิงเกลียด แต่เมื่อเอามาเรียกตัวเองกลับชอบ
ฟุตบอล-คล้ายกับเมีย คือหลังจากได้ครอบครองแล้วก็ต้องเขี่ยมันออกไป
ชิป-วัตถุอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหนึ่ง ถ้าหาไม่เจอเรียกว่า ชิปหาย
ฉลาม-สัตว์ที่ไม่อยากเกิดมามีหู
ปอด-อวัยวะที่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับบุหรี่
งานศพ-งานที่เจ้าตัวไม่เคยออกมาต้อนรับแขกเลย
วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เชื่อหรือไม่ว่า...
1.กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายคนเราคือ ลิ้น
2.ผู้หญิงกระพริบตามากกว่าผู้ชายถึง2เท่า และมากว่า30ครั้งเมื่อพวกเธออยู่สระว่ายน้ำ
3.คนเราไม่สามารถเลียข้อศอกตัวเองได้
4.แมลงสาบหัวขาดจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปถึง 9 วันก่อนที่มันจะอดอาหารตาย
5.เวลาปลาหมึกยักษ์หิวจัดเอามากๆ มันจะกินหนวดของตัวเอง และมันยังเป็น!ที่มีลูกตาใหญ่ที่สุดในโลก
6.แมงมุมม่ายดำซึ่งกลืนกินคู่ขาหลังจาการสมสู่ ยังสามารถหม่ำแมงมุมตัวผู้ได้ถึงวันละ 25 ตัวร้ายกาจจริงๆ7.เตียงนอนในบ้านโดดทั่วไปแล้ว จะมีตัวไรซ่อนอยู่ถึงหกพันล้านตัว
8.ผึ้งจะทำกายบริหารก่อนบินเสมอ
9.การ์ตูนโดนัลด์ดั๊กเคยถูกประกาศห้ามเผยแพร่ในฟินแลนด์ เพียงเพราะว่ามันไม่สวมกางเกง
10.ถ้าคุณลากเส้นชอล์กผ่านขวางทางเดินของมด มันจะไม่ยอมเดินผ่านข้ามไป
11.ในแต่ละวันผู้หญิงจะฉอเลาะมากถึง 7,000 คำต่อวัน ขณะที่ผู้ชายปริปากแค่ 2,000 คำต่อวันเท่านั้น
12.คุณรู้รึเปล่าว่า ไม่ว่ากระดาษจะมีแผ่นใหญ่แค่ไหน คุณไม่สามารถพับครึ่งได้ถึง6ทบ ไม่เชื่อลองดู
13.คุณรู้ไหม โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะกลืนกินลิปสติกลงท้องไปถึง 4 ปอนด์ในตลอดชีวิตของเจ้าหล่อน14.เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะจามทั้งๆ ดวงตายังเปิด
15.เห็นได้ชัดว่าลูกตาของคนเราจะคงขนาดเดิมมาตั้งแต่เกิด แต่จมูกกับหูนั้นไม่เคยหยุดการเจริญเติบโตเลย16.วอลท์ ดิสนีย์ ผู้สร้างตำนานการ์ตูนมิกกี้เมาส์น่ะ อันที่จริงเขาเป็นคนกลัวหนูจะตายไป
17.เอาหัวโขกกับกำแพงสัก 1 ชม. ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 150 แคลอรี่
18.ปูอัดทำมาจากปลาบด
19.อัลมอลล์เป็นชื่อตระผมลหนึ่งของพีช
20.โฆษณานาฬิกาทุกชิ้น มักให้เข็มนาฬิกาอยู่ที่ 10.10 เพราะจะได้ดูเหมือนรูปใบหน้ายิ้ม
21.ลายเสือเกิดจากหลังของมัน ไม่ใช่จากขน22.ร้อยละ 80 ของคนที่อ่านบทความนี้ จะพยายามเลียข้อศอกตัวเอง!!!
2.ผู้หญิงกระพริบตามากกว่าผู้ชายถึง2เท่า และมากว่า30ครั้งเมื่อพวกเธออยู่สระว่ายน้ำ
3.คนเราไม่สามารถเลียข้อศอกตัวเองได้
4.แมลงสาบหัวขาดจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ต่อไปถึง 9 วันก่อนที่มันจะอดอาหารตาย
5.เวลาปลาหมึกยักษ์หิวจัดเอามากๆ มันจะกินหนวดของตัวเอง และมันยังเป็น!ที่มีลูกตาใหญ่ที่สุดในโลก
6.แมงมุมม่ายดำซึ่งกลืนกินคู่ขาหลังจาการสมสู่ ยังสามารถหม่ำแมงมุมตัวผู้ได้ถึงวันละ 25 ตัวร้ายกาจจริงๆ7.เตียงนอนในบ้านโดดทั่วไปแล้ว จะมีตัวไรซ่อนอยู่ถึงหกพันล้านตัว
8.ผึ้งจะทำกายบริหารก่อนบินเสมอ
9.การ์ตูนโดนัลด์ดั๊กเคยถูกประกาศห้ามเผยแพร่ในฟินแลนด์ เพียงเพราะว่ามันไม่สวมกางเกง
10.ถ้าคุณลากเส้นชอล์กผ่านขวางทางเดินของมด มันจะไม่ยอมเดินผ่านข้ามไป
11.ในแต่ละวันผู้หญิงจะฉอเลาะมากถึง 7,000 คำต่อวัน ขณะที่ผู้ชายปริปากแค่ 2,000 คำต่อวันเท่านั้น
12.คุณรู้รึเปล่าว่า ไม่ว่ากระดาษจะมีแผ่นใหญ่แค่ไหน คุณไม่สามารถพับครึ่งได้ถึง6ทบ ไม่เชื่อลองดู
13.คุณรู้ไหม โดยทั่วไปแล้วผู้หญิงจะกลืนกินลิปสติกลงท้องไปถึง 4 ปอนด์ในตลอดชีวิตของเจ้าหล่อน14.เป็นไปไม่ได้ที่คุณจะจามทั้งๆ ดวงตายังเปิด
15.เห็นได้ชัดว่าลูกตาของคนเราจะคงขนาดเดิมมาตั้งแต่เกิด แต่จมูกกับหูนั้นไม่เคยหยุดการเจริญเติบโตเลย16.วอลท์ ดิสนีย์ ผู้สร้างตำนานการ์ตูนมิกกี้เมาส์น่ะ อันที่จริงเขาเป็นคนกลัวหนูจะตายไป
17.เอาหัวโขกกับกำแพงสัก 1 ชม. ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ถึง 150 แคลอรี่
18.ปูอัดทำมาจากปลาบด
19.อัลมอลล์เป็นชื่อตระผมลหนึ่งของพีช
20.โฆษณานาฬิกาทุกชิ้น มักให้เข็มนาฬิกาอยู่ที่ 10.10 เพราะจะได้ดูเหมือนรูปใบหน้ายิ้ม
21.ลายเสือเกิดจากหลังของมัน ไม่ใช่จากขน22.ร้อยละ 80 ของคนที่อ่านบทความนี้ จะพยายามเลียข้อศอกตัวเอง!!!
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)