ฝนดาวตกเจมินิดส์ ( Geminids Meteor Shower ) หรือฝนดาวตกคนคู่เกิดขึ้นช่วงประมาณวันที่ 6 – 19 ธันวาคมของทุกปี และวันที่ตกจะตกมากที่สุดคือวันที่ 13 -14 ธันวาคม มีอัตราการตกประมาณ 100 ดวงต่อชั่วโมง จุด Radiant ใกลักับดาวคาสเตอร์ (Castor ) ปริมาณดาวตกในวันที่ตกชุกที่สุด 80 จุดเรเดียน อยู่ในกลุ่มดาวคนคู่ ( Gemini ) ต้นกำเนิดฝนดาวตกเจมินิดส์เกิดจากแกนกลางของดาวหางที่สลายตัวหมดแล้วกลายเป็นดาวเคราะห์น้อย 3200Phaethon
ฝนดาวตกเจมินิดส์ (Geminids Meteor Shower) เป็นฝนดาวตกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาฝนดาวตกที่ปรากฏในรอบปี หากไม่นับฝนดาวตกลีโอนิดส์ ซึ่งจะปรากฏให้เห็น ตระการตาทุก ๆ 33-34 ปี เจมินิดส์มีปรากฏให้เห็นในช่วงวันที่ 6-19 ธันวาคม แต่จะมีจำนวนดาวตกสูงสุดในคืนวันที่ 13-14 โดยมีจำนวน ดาวตกสูงสุด 80-100 ดวง/ชั่วโมง อุกกาบาตมีความเร็ว 35 กิโลเมตร/วินาที และมีไฟร์บอล โดยมีเรเดียนท์อยู่ใน "กลุ่มดาวราศีมิถุน" หรือ "กลุ่มดาวคนคู่" (Gemini)
ฝนดาวตกเจมินิดส์มีความแตกต่างจากฝนดาวตกทั่วไป คือมิได้กำเนิดจากธารอุกกาบาตของดาวหาง แต่มันกำเนิดจากธารอุกกาบาตของ ดาวเคราะห์น้อย "3200 ฟีธอน" (3200 Phaethon) อุกกาบาตจึงมีขนาดใหญ่ และมีคาบการเกิดดาวตกยาวนาน เราสามารถมองเห็น ดาวตกจำนวนมากได้ 2-3 วัน ก่อนและหลังวันที่มีจำนวนดาวตกสูงสุด
เจมินิดส์นับเป็นฝนดาวตกที่เหมาะสมน่าจับตาที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะเป็นฝนดาวตกที่มีดาวตกจำนวนมาก และเกิดขึ้นในฤดูหนาว ซึ่งอากาศดีและท้องฟ้าใส นอกจากการนับดาวตกแล้ว ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับการดูทางช้างเผือก และกลุ่มดาวสว่างที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก
ฝนดาวตกเจมินิดส์มีความแตกต่างจากฝนดาวตกทั่วไป คือมิได้กำเนิดจากธารอุกกาบาตของดาวหาง แต่มันกำเนิดจากธารอุกกาบาตของ ดาวเคราะห์น้อย "3200 ฟีธอน" (3200 Phaethon) อุกกาบาตจึงมีขนาดใหญ่ และมีคาบการเกิดดาวตกยาวนาน เราสามารถมองเห็น ดาวตกจำนวนมากได้ 2-3 วัน ก่อนและหลังวันที่มีจำนวนดาวตกสูงสุด
เจมินิดส์นับเป็นฝนดาวตกที่เหมาะสมน่าจับตาที่สุดสำหรับประเทศไทย เพราะเป็นฝนดาวตกที่มีดาวตกจำนวนมาก และเกิดขึ้นในฤดูหนาว ซึ่งอากาศดีและท้องฟ้าใส นอกจากการนับดาวตกแล้ว ท่านยังสามารถเพลิดเพลินกับการดูทางช้างเผือก และกลุ่มดาวสว่างที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น