วันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

ป้องกัน ไวรัสคอมพิวเตอร์ แบบง่าย ๆ


ไวรัสสำหรับคอมพิวเตอร์ ก็คล้าย ๆ กับเชื้อโรคที่เป็นสาเหตุของโรคหวัดของเรานั่นแหละ นอกจากจะทำร้ายคอมพิวเตอร์ของเรา ยังอาจลุกลามไปถึงเครื่องคนอื่นได้ โดยเฉพาะในออฟฟิศหรือสำนักงาน มาป้องกันไวรัสด้วยวิธีง่าย ๆ นี้ดีกว่า อย่าเปิดอ่านอีเมลแปลก ๆ เวลาที่คุณเช็กอีเมล ถ้าเผอิญเจออีเมล์ชื่อแปลก ที่ไม่รู้จักให้สงสัยไว้ก่อนเลยว่าต้องมีไวรัสแน่นอน แม้ว่าชื่อหัวข้ออีเมลจะดูเป็นมิตรแค่ไหน ก็อย่าเผลอกดเข้าไปเด็ดขาดล่ะ ใช้โปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัส (Anti-virus) ต้องยอมรับว่า ไม่มีโปรแกรมตรวจจับและกำจัดไวรัสโปรแกรมใดสมบูรณ์แบบ จะต้องอัพเดตโปรแกรมที่ใช้ตรวจจับและกำจัดไวรัสอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้ครอบคลุมถึงไวรัสชนิดใหม่ ๆ อย่าโหลดเกมมากเกินไป เกมคอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์ต่าง ๆ อาจมีไวรัสซ่อนอยู่ ไม่ควรโหลดมาเล่นมากเกินไป และควรโหลดจากเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้เท่านั้น บางทีเว็บไซต์จะมีเครื่องหมายบอกว่า "No virus หรือ Anti virus" อยู่แบบนี้ถึงจะไว้ใจได้ สแกนไฟล์ต่าง ๆ ทุกครั้งก่อนดาวน์โหลดไฟล์ทุกประเภท ควรทำการสแกนไฟล์ รวมทั้งข้อมูลจากภายนอกก่อนเข้ามาใช้ในเครื่อง ไม่ว่าจะเป็น CD, Diskette หรือ Handydrive ต้องใช้โปรแกรมค้นหาไวรัสเสียก่อน หมั่นตรวจสอบระบบต่าง ๆ ควรตรวจสอบระบบต่าง ๆ ของเครื่องคอมพิวเตอร์อย่างสม่ำเสมอ เช่น หน่วยความจำ, การติดตั้งโปรแกรมใหม่ ๆ ลงไป, อาการแฮงค์ (Hang) ของเครื่องเกิดจากสาเหตุใด บ่อยครั้งหรือไม่ ซึ่งคุณอาจจะต้องติดตั้งโปรแกรมพวกบริการ (Utilities) ต่าง ๆ เพิ่มเติมในเครื่องด้วย


Tip ... รู้ได้อย่างไรว่าคอมพิวเตอร์ติดไวรัสแล้ว

1. การทำงานของคอมพิวเตอร์ช้าลงกว่าปกติ

2. คอมพิวเตอร์หยุดทำงานโดยไม่ทราบสาเหตุ

3. อยู่ดี ๆ ข้อมูลบางอย่างก็หายไป

4. ตัวเครื่อง Restart เองโดยไม่ได้สั่ง

5. แป้นพิมพ์ทำงานปกติหรือไม่ทำงานเลย

การอ่านหนังสือขั้นเทพ


พญ.วิจิตรา แนะนำว่า เทคนิคการอ่านเพื่อสร้างความจดจำ ไม่มีอะไรซับซ้อน เพียงเริ่มต้น


1. เตรียมพร้อมที่จะอ่าน โดยสร้างความสนใจ และเห็นความสำคัญของสิ่งที่จะอ่าน

2. หาสถานที่ที่เหมาะสม ไม่มีเสียงรบกวน

3. นั่งตัวตรงที่ขอบเก้าอี้ ไม่พิงพนัก

4. ปิดตาหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อผ่อนคลาย ใช้นิ้วชี้นำข้อความไปเรื่อย ๆ

5. อ่านบทนำ หัวข้อ ของผู้เขียน เพราะจะเป็นการรวบรวมเนื้อหาและขอบเขตของเนื้อหาทั้งหมด

6. ระหว่างอ่านต้องเตือนตนเองว่า เนื้อเรื่องพูดถึงใคร อะไร ที่ไหน เมื่อไหร่ อย่างไร

7. อ่านเนื้อหาไม่ต้องอ่านทุกคำ บางครั้งช่วยด้วยการอ่านออกเสียง และที่สำคัญคือ

8. หลังอ่านจบสรุปเนื้อหา ซึ่งตรงนี้สามารถกลับมาทบทวนได้ง่าย ไม่ต้องมานั่งอ่านหมดทั้งหน้า และหากนำไปใช้บ่อย ๆ ก็จะทำให้เอ่านเร็วขึ้น ไม่ต้องเสียเวลาทั้งวันกับการอ่านหนังสือหน้าเดียวแล้วก็จำอะไรไม่ได้
หลังการอ่านหนังสือจบ จะต้องมีการทบทวน ภายใน 24 ชั่วโมง เพราะจากการทดลอง พบว่า หากทบทวนภายใน 24 ชั่วโมง จะทำให้จำได้ถึง 80% และใช้เวลาน้อยมากในการอ่านทบทวน ซึ่งต่างจากคนที่ทบทวนภายใน 7 วัน จะจำได้เพียง 50% ส่วนคนที่ทบทวนการสอบจะจำได้เพียง 20 - 30% เท่านั้น
ปิดท้ายด้วยเทคนิคการจำ พญ.จิตราบอกว่าให้ใช้การจำโดยการแต่งเรื่องสนุก ๆ โดยนำคำต่าง ๆ มานำหน้า หรื่อเป็นเรื่องตลก เป็นต้น หรืออีกวิธีหนึ่งคือ การจำโดยใช้แผนที่ หรือที่เรียกว่า Mind Mapping ซึ่งวิธนี้ จะทำให้เข้าใจง่ายมากขึ้น โดยบางครั้งอาจจะใช้วิธีการวาดรูปแทนข้อความบางข้อความเพื่อสร้างความจดจำ เทคนิคง่าย ๆ แต่ได้ประโยชน์มหาศาล